image

ผลเสียจากการนอนดึก คุณทราบมากแค่ไหน?

《หลิงซู》กล่าวว่า “ลมปราณเว่ย(卫气), กลางวันเดินทางในหยาง, กลางคืนเดินทางในอิน, ดังนั้น หากลมปราณหยางหยุดลงจะทำให้หลับ, หากลมปราณอินหยุดลงจะทำให้ตื่น” หากนอนดึก การทำงานของลมปราณเว่ยจะผิดปกติ แสดงอาการออกมาเป็นกลุ่มอาการอินพร่อง (สารอินในร่างกายบกพร่องลงกว่าที่ควรจะเป็น) เช่น ปากและลิ้นแห้ง คอแห้ง กระหายน้ำ รู้สึกร้อนรุ่ม หงุดหงิดง่าย

ผลเสียจากการนอนดึก คุณทราบมากแค่ไหน?

 

            ในปี 2017 นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันสามท่านได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์จากการค้นพบกลไกนาฬิการ่างกายในระดับโมเลกุล (Circadian rhythm) เป็นกลไกควบคุมวงจรการทำงานของร่างกายสิ่งมีชีวิต ทั้งพืช สัตว์ หรือแม้กระทั่งเชื้อรา ให้ทำงานโดยสอดคล้องกับแต่ละช่วงเวลาของวัน

            พูดง่าย ๆ ก็คือ เราควรตื่นขึ้นมาทำงานตอนกลางวัน และเข้านอนตอนกลางคืน

 

หลิงซูกล่าวว่า “ลมปราณเว่ย(卫气), กลางวันเดินทางในหยาง, กลางคืนเดินทางในอิน, ดังนั้น หากลมปราณหยางหยุดลงจะทำให้หลับ, หากลมปราณอินหยุดลงจะทำให้ตื่น”

จึงแนะนำให้เข้านอนตอนกลางคืนเพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของ “การเคลื่อนที่ของลมปราณเว่ยในอิน” (卫气行阴 เว่ยชี่สิงอิน) หากนอนดึก การทำงานของลมปราณเว่ยจะผิดปกติ แสดงอาการออกมาเป็นกลุ่มอาการอินพร่อง (สารอินในร่างกายบกพร่องลงกว่าที่ควรจะเป็น) เช่น ปากและลิ้นแห้ง คอแห้ง กระหายน้ำ รู้สึกร้อนรุ่ม หงุดหงิดง่าย

 

            การนอนดึกมีผลต่อทุกอวัยวะในห้าอวัยวะตันและหกอวัยวะกลวง ซึ่งอวัยวะหลัก ๆ ที่เกี่ยวข้องมากที่สุด คือ

1. ตับ

เน่ยจิง: “เลือดจะกลับไปสู่ตับเมื่อมนุษย์นอนหลับ” การแพทย์แผนจีนมีมุมมองว่าหนึ่งในหน้าที่หลักของตับคือการกักเก็บเลือด เลือดคือสารอิน ดังนั้น การนอนหลับตอนกลางคืน(เวลาที่เป็นอิน) จะสามารถบำรุงเลือดในตับของเราได้ (เพราะเป็นการเสริมซึ่งกันและกันของสารอิน)

            การแพทย์แผนตะวันตกมองว่าตับเป็นอวัยวะล้างพิษที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายของมนุษย์ เมื่อถึงเวลากลางคืน ตับจะทำการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ตับส่วนใหญ่ เมื่อร่างกายมนุษย์อยู่ในภาวะหลับลึก จะเกิดการหลั่ง growth hormone จำนวนมาก ซึ่งสามารถส่งเสริมให้มีการเจริญเติบโต และสังเคราะห์โปรตีนที่ร่างกายมนุษย์ต้องการ มีประโยชน์อย่างมากต่อการฟื้นฟูการทำงานของตับ และพัฒนาการของเด็ก

            หากนอนดึกเป็นเวลานาน ตับจะไม่สามารถกักเก็บเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้หญิงจะประสบปัญหาความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น ประจำเดือนน้อยลง ประจำเดือนมาไม่ปรกติ มีริ้วรอยบนใบหน้า ส่วนผู้ชาย จะทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมถอยลง และมีปัญหาต่อมลูกหมาก เป็นต้น

2. หัวใจ

หลายคนคงมีประสบการณ์ที่ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อเตรียมตัวตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ในวันถัดไปได้อย่างราบรื่น ไม่อย่างนั้น คลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ตรวจได้อาจพบความผิดปกติ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะได้ง่าย

ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?

เน่ยจิง: “หัวใจคือขุนนางแห่งกษัตริย์, และเสิน* () เกิดจากสิ่งนั้น”

ในขณะเดียวกัน เสินเองก็อาศัยการหล่อเลี้ยงของเลือดของหัวใจเป็นพื้นฐานเช่นกัน ดังสุภาษิตที่ว่า “หลับตาเลี้ยงเสิน” (闭目养神ปี้มู่หยั่งเสิน) มีความหมายถึงการหลับตาลงเพื่อตั้งสติและสมาธิ(คล้ายกับการนั่งสมาธิหรือพักผ่อน) ซึ่ง “เสิน” ในสุภาษิตนั้น ก็คือ “เสินของหัวใจ” ในที่นี้นี่เอง

ดังนั้น การหลับตาลงพักผ่อนหรือนอนหลับ จึงสามารถหล่อเลี้ยงเสินของหัวใจได้อย่างดี ขณะเดียวกัน หากนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอเป็นเวลานาน ก็อาจเกิดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น ใจสั่น แน่นหน้าอก ความดันโลหิตสูง ไปจนถึงโรคหลอดเลือดในสมองเลยทีเดียว

*เสิน () สามารถแปลเป็นไทยได้หลายแบบขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ราศี, ความมีชีวิตชีวา, ขวัญ, สติสัมปชัญญะ ; หากมีอย่างเต็มเปี่ยม จะมีสีหน้าสดชื่นแจ่มใส กระฉับกระเฉง แววตาสดใส แต่หากบกพร่องลงกว่าที่ควรจะเป็น จะแสดงออกมาทางสีหน้าที่ดูหมองคล้ำไม่สดชื่น เฉื่อยชา แววตาเหนื่อยล้า

 

3. ม้ามและกระเพาะอาหาร

ในขณะที่เรานอนดึก อวัยวะภายในร่างกายของเราจะยังอยู่ในสภาวะตื่นตัวพร้อมทำงาน ซึ่งต้องการพลังงานมาเติมเต็ม เราจึงมักจะรู้สึกหิวในเวลาดึกอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม หากรับประทานเข้าไปในช่วงเวลานั้น ระบบย่อยอาหารของเรา(ม้ามและกระเพาะอาหารในทางการแพทย์แผนจีน) ก็จะต้องกระตุ้นตัวเองขึ้นมาย่อยอาหารในเวลาที่ไม่สมควร ซึ่งหากไม่อดทนเปลี่ยนแปลง ก็จะเกิดเป็นวงจรแบบนี้อย่างต่อเนื่อง

ในทางกลับกัน ด้วยสภาวะ “ลมปราณเว่ยเดินทางในอิน” (卫气行于阴) การไม่หลับไม่นอนเวลากลางคืน ก็จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของลมปราณเว่ยอย่างแน่นอน จนกระทั่งทำให้ความสมดุลของอินและหยางในร่างกายผิดปกติ เป็นต้นเหตุของโรคนานัปการ

หากเป็นเช่นนี้ในระยะยาว จะทำให้เกิดเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารได้ง่าย เช่น กระเพาะอาหารอักเสบอย่างฉับพลัน หรือแผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร เป็นต้น

เส้นลมปราณ

หลิงซู • อิ๋งเว่ยเซิงฮุ่ย กล่าวว่า “ครึ่งคืนมีนัดหมายใหญ่ คนนับหมื่นล้วนนอนหลับ” (夜半而大会,万民皆卧เย่ปั้นเอ่อร์ต้าฮุ่ย, ว่านหมินเจียว่อ) มีความหมายว่า เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน คนทุกคนจะนอนหลับกันหมด

            ซึ่งในเวลา 23:00 – 01:00 (ยามจื่อ) ในเวลากลางคืนคือเวลาของเส้นลมปราณเส้าหยางถุงน้ำดี

และเวลา 11:00 – 13:00น. (ยามอู่) ในเวลากลางวันคือเวลาของเส้นลมปราณเส้าอินหัวใจ

ทั้งสองช่วงเวลานี้อยู่ห่างกันครึ่งวัน คือ 12 ชั่วโมง ทั้งสองเส้นลมปราณนี้มีความเกี่ยวข้องกันในเชิงคู่ขั้วตรงข้ามของอินและหยาง ดังนั้น การนอนหลับพักผ่อนในยามจื่อ (5 ทุ่มถึงตีหนึ่ง) ก็จะเป็นการดูแลรักษาถุงน้ำดี ซึ่งก็จะส่งผลไปยังคู่ตรงข้าม ทำให้หัวใจก็ได้รับการหล่อเลี้ยงเช่นกัน ทำให้อินและหยางมีความสมดุล

จากที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ทราบว่า การนอนดึกส่งผลส่งผลต่อร่างกายของเราในหลายด้าน ดังนั้น การนอนหลับพักผ่อนที่ดีอย่างมีคุณภาพจะส่งผลดีและมีประโยชน์กับร่างกายได้อย่างมหาศาล

 

ดังนั้น เหล่าซือจึงให้คำแนะนำไว้ดังนี้

1. ครึ่งชั่วโมงก่อนเข้านอน ทางที่ดีไม่ควรเล่นโทรศัพท์ งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า ร้อยละ 80 ของการรับรู้โลกภายนอก มาจากดวงตา ซึ่งจะส่งผลทำให้สมองมีการตื่นตัวจนทำให้นอนไม่หลับ

2. แช่เท้าก่อนนอน : เส้นลมปราณอินเฉียวม่าย และหยางเฉียวม่าย เริ่มมาจากเท้า ควบคุมการเปิด-ปิดของเปลือกตา ดังนั้นการแช่เท้าก่อนนอน จะเป็นการปรับสมดุลให้กับเส้นลมปราณทั้งสอง ทำให้สามารถนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. สำหรับผู้ที่เข้านอนได้ยาก คุณภาพการนอนหลับไม่ดี นอนดึก แนะนำให้ดื่มชาสมุนไพร 五味子 10g  车前子10g ชงในน้ำร้อน ดื่มอุ่น ๆ ก่อนนอน 30 นาที

 

            บทความนี้สรุปผลเสียต่อร่างกายจากการนอนดึกไว้อย่างง่าย ๆ ซึ่งแน่นอนว่ายังคงมีผู้คนจำนวนมากมายที่นอนดึกและนอนไม่หลับจากโรคประจำตัวที่ตัวเองเป็น ดังนั้น สำหรับผู้คนกลุ่มนี้ จึงแนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจและรักษาเพื่อไม่ให้กลไกของโรคดำเนินไปอย่างรุนแรงมากขึ้น



 credit : 三才公益